“ลิขสิทธิ์” เป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีรูปร่าง แต่สามารถถือครองได้ และกฎหมายให้ความคุ้มครอง โดยให้เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ที่ได้ทำขึ้นโดยหลักการกว้าง ๆ กฎหมายลิขสิทธิ์เป็นกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองงานสร้างสรรค์ประเภท วรรณกรรมและศิลปกรรม แบ่งออกเป็น 9 ประเภท ได้แก่ วรรณกรรม , นาฏกรรม , ศิลปกรรม , ดนตรีกรรม , โสตทัศนวัสดุ , ภาพยนตร์ , สิ่งบันทึกเสียง , งานแพร่เสียงแพร่ภาพ , งานอื่นในแผนกวรรณคดี ศิลปะ และวิทยาศาสตร์
งานออกแบบอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง งานออกแบบตกแต่ง ภายในหรือภายนอก การสร้างสรรค์หุ่นจำลองของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือที่เรียกว่างานสถาปัตยกรรม เกี่ยวข้องโดยตรงกับกฎหมายลิขสิทธิ์ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปกรรมแม้จะเป็นงานที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่ยังมีผู้สนใจ เข้าใจและให้ความสำคัญกับเรื่องลิขสิทธิ์แบบบ้านจำนวนไม่มากนัก ทางสมาคมรับสร้างบ้านจึงได้จัดสัมมนาเรื่อง ลิขสิทธิ์แบบบ้านขึ้น เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องดังกล่าวกันมากขึ้น
ปัจจุบันยังมีความเข้าใจผิดว่าจะต้องไปจดทะเบียนก่อน ถึงจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ แต่จริง ๆ แล้วหากผลงานเข้าข่ายอันมีลิขสิทธิ์ตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะได้รับความคุ้มครองโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีการจดทะเบียน แต่งานที่จะได้รับความคุ้มครองจะต้องเป็นการแสดงออกซึ่งความคิด มีระดับการสร้างสรรค์เพียงพอ และต้องเป็นการสร้างสรรค์ด้วยตนเอง มิใช่ลอกเลียนงานของคนอื่น และต้องเป็นงานสร้างสรรค์ที่กฎหมายกำหนด และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ สำหรับบุคคลธรรมดา กฎหมายให้ความคุ้มครองไปตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และต่อเนื่องไปอีก 50 ปี ส่วนนิติบุคคล กฎหมายให้ความคุ้มครอง 50 ปี หลังจากสร้างสรรค์ หรือโฆษณาครั้งแรก และสำหรับศิลปะประยุกต์กฎหมายให้ความคุ้มครอง 25 ปี หลังจากสร้างสรรค์ หรือโฆษณาครั้งแรก ที่เป็นปัญหาและสร้างความสับสนเป็นอย่างมากคือเรื่อง “ เจ้าของลิขสิทธิ์” เพราะผู้สร้างสรรค์ และเจ้าของลิขสิทธิ์ อาจจะเป็นคนเดียวกันหรือคนละคนก็ได้ ขึ้นอยู่กับการสร้างสรรค์งาน หากเป็นการสร้างสรรค์งานโดยอิสระ เจ้าของลิขสิทธิ์คือ ตัวผู้สร้างสรรค์ ส่วนในกรณีการสร้างสรรค์งานภายใต้การจ้างงาน ผู้สร้างสรรค์แม้จะอยู่ในฐานะลูกจ้าง แต่ยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ เว้นแต่ได้ทำหนังสือตกลงกันไว้กับนายจ้างเป็นอย่างอื่นอย่างไรก็ดี นายจ้างมีสิทธินำงานนั้นออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ก็ตามวัตถุประสงค์ของการจ้างแรงงานนั้น
ตัวอย่างเช่น สถาปนิกอิสระ หรือสถาปนิกที่เป็นลูกจ้างของบริษัทรับสร้างบ้านต่าง ๆ หากไม่ได้ทำสัญญาตกลงกับนายจ้างไว้เป็นอย่างอื่น แบบบ้านก็ยังคงเป็นลิขสิทธิ์ของสถาปนิก แต่บริษัทรับสร้างบ้านสามารถนำแบบบ้านไปใช้ได้ในฐานะผู้ว่าจ้าง ส่วนกรณีที่รับจ้างบุคคลอื่น ผู้ว่าจ้างจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เว้นแต่จะได้มีการตกลงกันระหว่าผู้ว่าจ้าง และผู้สร้างสรรค์ไว้เป็นอย่างอื่น
ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือ ถ้ามีเจ้าของบ้านจ้างให้สถาปนิกเขียนแบบบ้านให้ เจ้าของบ้านจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบบบ้าน ยกเว้นแต่จะมีการตกลงระหว่างเจ้าของบ้านกับสถาปนิกไว้เป็นอย่างอื่น เช่นเดียวกันกับงานสร้างสรรค์โดยการจ้าง หรือทำตามคำสั่งกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานรัฐ หรือของท้องถิ่น ลิขสิทธิ์จะตกเป็นของหน่วยงานดังกล่าว เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีของการนำงานที่มีลิขสิทธิ์อยู่แล้วมาดัดแปลง โดยได้รับการอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ดัดแปลงจะได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ในงานดัดแปลงที่เกิดขึ้นใหม่ แต่ต้องไม่กระทบกระเทือนสิทธิของเจ้าของสิทธิที่มีอยู่ในงานเดิม
การละเมิดลิขสิทธิ์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การละเมิดลิขสิทธิ์ทางตรง ได้แก่ การทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท ถ้าเป็นการกระทำผิดเพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 8 แสนบาท
อีกประเภทคือการละเมิดลิขสิทธิ์ทางอ้อม ได้แก่ การที่รู้อยู่แล้วว่างานทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ก็ยังกระทำเพื่อหากำไรจากงานนั้นผู้กระทำต้องระวางโทษปรับ 1 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท และถ้าเป็นการกระทำควาผิดเพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5 หมื่นบาท ถึง 4 แสนบาท
“การที่กฎหมายให้ความคุ้มครองผลงานที่เข้าข่ายอันมีลิขสิทธิ์โดยอัตโนมัติ ทำให้มีปัญหาในการค้นหาข้อมูลลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เปิดให้มีการรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลลิขสิทธิ์ขึ้น ผู้สนใจสามารถแจ้งข้อมูลการยืนยันการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะออกหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลให้ด้วย สนใจสอบถามรายละเอียดได้โดยตรงที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา